080 175 2000 info@53ac.com

บริการ ขอใบอนุญาต นำเที่ยว ใบอนุาตท่องเที่ยว ต่อกรมการท่องเที่ยว ใบอนุญาต ธุรกิจนำเที่ยวเฉพาะพื้นที่ ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ (Domestic) ธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ (Inbound) ธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ (Outbound)

 

ค่าบริการ

  • ค่าบริการ ขอใบอนุญาตท่องเที่ยว ใบอนุญาตนำเที่ยว 20,000 บาท
  • ค่าบริการ ต่ออายุ ใบอนุญาตท่องเที่ยว ใบอนุญาตนำเที่ยว 10,000 บาท (ต่อทุก 2 ปี)

ระยะเวลาขอใบอนุญาตท่องเที่ยว

เอกสารที่ต้องเตรียม สำหรับการขอใบอนุญาตท่องเที่ยว

1. แบบคำขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทนิติบุคคล (สธก.2) กรรมการ/ผู้มีอำนาจจัดการแทนลงลายมือชื่อและ ประทับตราบริษัท
2. หนังสือรับรองว่าบริษัทได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พร้อมวัตถุประสงค์ ไม่เกิน 6 เดือน (กรรมการไทยเกินกึ่งหนึ่งและกรรมการไทยเป็นผู้มีอำนาจลงลายชื่อและประทับตราบริษัท ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551) และที่อยู่ของสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
3. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ฉบับประชุมผู้ถือหุ้นปีปัจจุบัน รับรองโดยกระทรวงพาณิชย์ ไม่เกิน 6 เดือน (บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยถือหุ้น 51%)
4. หนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2) รับรองโดยกระทรวงพาณิชย์ ไม่เกิน 6 เดือน
5. ข้อบังคับของบริษัท หรือรายงานการประชุมจัดตั้งบริษัท (กรณีไม่มีข้อบังคับ) รับรองโดยกระทรวงพาณิชย์ ไม่เกิน 6 เดือน
6. รายการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด (หส.2) รับรองโดยกระทรวงพาณิชย์ ไม่เกิน 6 เดือน
7. สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจจัดการแทนและกรรมการทุกท่านพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีมีกรรมการต่างชาติ แนบสำเนาพาสปอร์ตและสำเนาใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย (Work Permit) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
8. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล หรือเอกสารสำคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล ของกรรมการ/ผู้มีอำนาจจัดการแทนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
9. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจจัดการแทนและกรรมการทุกท่านพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
10. รูปถ่ายด้านหน้าและด้านในสำนักงาน กรรมการ/ผู้มีอำนาจจัดการแทนลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัท
– รูปถ่ายด้านหน้าสำนักงาน เห็นตัวอาคารทั้งหลัง โดยแสดงเลขที่ตั้งและป้ายชื่อสำนักงานชัดเจน จำนวน 2 รูป
– (ป้ายชื่อต้องเป็นภาษาไทยและมีลักษณะคงทนถาวร และรูปถ่ายแบบล้างอัดภาพสี ขนาด 4 X 6 นิ้ว )
– รูปถ่ายด้านในสำนักงาน จำนวน 2 รูป (รูปถ่ายแบบล้างอัดภาพสี ขนาด 4 X 6 นิ้ว)
11. แผนที่ตั้งสำนักงาน กรรมการ/ผู้มีอำนาจจัดการแทนลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัท
12. หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองสถานที่ที่ใช้เป็นสำนักงาน
13. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บ ไม่ต่ำกว่าห้าแสนบาทต่อคน และต้องมีอายุกรมธรรม์ไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
14. หนังสือมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการ/ผู้มีอำนาจจัดการแทนลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัท ติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
15. เงินหลักประกันการประกอบธุรกิจนำเที่ยว (เลือก 1 แบบ)
– กรณีเป็นเงินสด/แคชเชียร์เช็ค สั่งจ่ายกรมการท่องเที่ยวเพื่อ………….…………………………..…….จำนวนเงิน…………………..บาท
(กรณีเงินสด/แคชเชียร์เช็ค ให้นำสำเนาหนังสือรับรองของบริษัทไม่เกิน 1 เดือนแสดงต่อธนาคาร 1 ชุด)
อัตราหลักประกันการประกอบธุรกิจนำเที่ยว ทั่วไป รหัส 11/xxxxx หลักประกัน 200,000 บาท นำเที่ยวจากต่างประเทศ รหัส 14/xxxxx หลักประกัน 100,000 บาท ในประเทศ รหัส 12/xxxxx หลักประกัน 50,000 บาท เฉพาะพื้นที่ รหัส 13/xxxxx หลักประกัน 10,000 บาท
*** ถ้าผู้ประกอบการรายใหม่ วางหลักประกันเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็ค แนบสำเนาหนังสือรับรองของบริษัท กรรมการเซ็นต์ชื่อและประทับตราที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือนยื่นกับธนาคารได้ 16. ใบนำส่งหลักประกัน จำนวน 2 แผ่น กรรมการ/ผู้มีอำนาจจัดการแทนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญ
17. ค่าใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว 2,000 บาท ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯ ฉบับละ 1,000 บาท รวมค่าธรรมเนียม 3,000 บาท

ข้อควรทราบ และ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับ ใบอนุญาตการท่องเที่ยว

พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มาตรา 17 ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งเป็นนิติบุคคลต้อง

มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

(ก) เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยถ้าเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ทันของบริษัทไม่ต้องกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ด ต้องเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย และกรรมการของบริษัทกิ่งหนึ่งต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย

(ข) กรรมการหรือผู้มีอำนาจจัดการแทนนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 16

,มาตรา 32 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องแสดงใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

มาตรา 35 ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกสองปี ตามหลักเกณฑ์วิธีการและอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

ผุ้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวผู้ใดไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายในระยะเวลาที่กำหนดให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละสองต่อเดือน และถ้าพ้นสามเดือนแล้วยังมิได้ชำระ ให้นายทะเบียนสั่งพักใช้ใบอนุญาตดังกล่าวจนกว่าจะชำระค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่ม ซึ่งต้องงดไม่เกินหกเดือนนับแต่วันสั่งพักใช้ใบอนุญาต

เมื่อพ้นหกเดือนแล้ว ถ้าผู้ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวยังมิได้ชำระค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่มตามวรรคสองให้นายทะเบียนสั่งเพิกถอนใบอนุญาต

ข้อปฏิบัติและคำแนะนำสำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตาม พ.ร.บ. ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551

แสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย เห็นได้้ง่าย ณ สถานที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ระบุไว้ในใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว (ตามมาตรา 32)
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกๆ 2 ปี นับตั้งแต่วันครบกำหนดชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่่ยว ได้ก่อนภายใน 120 วัน (ผู้ใดไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องเสียเงินเพีิมอีกร้อยละ 2 ต่อเดือนของค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามมาตรา 35)
กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ียวเปลี่ยนแปลงรายการของนิติบุคคล คุณสมบัติของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องมีอยู่ตลอดเวลาของการประกอบธุรกิจนำเที่ยวคือ (ตาม มาตรา 17)
ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ผุ้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดชอบ และผู้มีอำนาจกระทำการแทน ต้องเป็นบุคคลธรรมดาผู้มีสัญชาติไทย ห้างหุ้นส่วนจำกัด หุ้นส่วนผู้จัดการ ต้องเป็นบุคคลธรรมดาผู้มีสัญชาติไทย
บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด กรรมการของบริษัทเกินกึ่งหนึ่งต้องเป็นบุคคลธรรมดาผู้มีสัญชาติไทย ทุนของบริษัทไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ต้องเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย กรรมการผู้มีอำนาจจัดการแทนต้องเป็นบุคคลธรรมดาผู้มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวใดเปลี่ยนแปลงรายการของนิติบุคคลแล้วทำให้ขาดคุณสมบัติของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้) หากมีการเปลี่ยนแปลงรายการประกอบธุรกิจนำเที่ยวต่างๆ เช่น เปลี่ยนแปลงที่ตั้่งสำนักงาน เปลี่ยนชื่อบุคคลหรือนิติบุคคล เปลี่ยนชื่อสถานประกอบการ เปลี่ยนแปลงกรรมการหรือผู้มีอำนาจจัดการแทน เพิ่มหรือยกเลิกสำนักงานสาขา เปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานสาขา และอื่นๆ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่่ยวต้องยื่นเอกสารหลักฐานการเปลี่ยนแปลงต่อนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง
การเปลี่ยนชื่อและที่อยู่ หรือรายการต่างๆ ที่เกี่ยวกับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่่ยว สำนักงานทะเบียนฯ อาจมีการแก้ไขรายการเปลี่ยนแปลงลงในใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสำนักงานทะเบียนฯ อาจมีการแก้ไขรายการเปลี่ยนแปลงลงในใบอนุญาตฯ ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจึงไม่ควรนำใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวไปเคลือบพลาสติก
ข้อควรทราบของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว

ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
คุณสมบัติตามมาตรา 16 หรือ 17 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ต้องมีอยู่ตลอดระยะเวลาที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
การขาตคุณสมบัติตามมาตรา 16 หรือ 17 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 จะเป็นเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประำกอบธุรกิจนำเที่ยว
ผู้ประกอบการนำเที่ยว ต้องมีการจดทะเบียนและวางเงินประกันกับ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
ธุรกิจนำเที่ยวเฉพาะพื้นที่ ต้องวางประกัน จำนวน 10,000 บาท สามารถประกอบธุรกิจท่องเที่ยวได้เฉพาะในจังหวัดที่จดทะเบียนและจังหวัดข้างเคียงซึ่งอยู่ในพื้นที่่เดียวกัน และบริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น
ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ (Domestic) ต้องวางประกันจำนวน 50,000 บาท สามารถประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยทุกจังหวัด โดยไม่ให้นำเที่ยวไปยังต่างประเทศ ให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น
ธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ (Inbound) ต้องวางประกันจำนวน 100,000 บาท สามารถประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยทุกจังหวัด โดยไม่ให้นำเที่ยวไปยังต่างประเทศ ให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
ธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ (Outbound) ต้องวางประกันจำนวน 200,000 บาท สามารถประกอบธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ให้บริการได้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ

​สนใจบริการ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

บริษัท นารา การบัญชี จำกัด

โทร 080 173 2000 ; 080 174 2000
โทร 02 933 5511

กรณีเร่งด่วน/ หลังเลิกงาน โทร 080 175 2000 คุณ ธนา

อีเมล์: info@53ac.com , สำเนา CC: 53ac.com@gmail.com

Line ID: @nara53

เพิ่มเพื่อน

แผนที่

https://goo.gl/maps/GBPpLfS42QsZg4jf6

เดินทาง รถไฟฟ้า สายสีเหลือง สถานี โชคชัย 4 ประตูทางออก 4 นาราฯ อยู่ในซอยลาดพร้าว 52

ถาม ตอบ

ถาม 1 – ฉันต้องการยกเลิกใบอนุญาตนำเที่ยว เนื่องจากฉันต้องการใช้บริษัทสำหรับไปประกอบธุรกิจประเภทอื่น ซึ่ง ณ ตอนนี้ฉันไม่ได้มีการทำธุรกิจนำเที่ยวมาได้สักระยะแล้ว และฉันต้องการเงินหลักประกันคืนเพื่อไปเริ่มธุรกิจใหม่ ฉันต้องดำเนินการอย่างไรและเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

นารา – คุณสามารถดำเนินการยื่นแบบคำร้องขอคืนเงินหลักประกันนำเที่ยวที่กรมการท่องเที่ยวได้เลย หลังจากที่ยื่นแบบคำขอและเอกสารที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วน หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะออกใบรับยกเลิกประกอบกิจการและขอคืนเงินหลักประกันให้ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะใช้ระยะเวลาดำเนินการในส่วนของการอนุมัติและส่งจดหมายแจ้งไปยังผู้ประกอบการ ประมาณ 60 วันทำการ หลังจากได้รับจดหมายแจ้งจากกรมการท่องเที่ยวแล้วสามารถไปดำเนินการขอรับเงินหลักประกันที่กรมการท่องเที่ยวได้เลย ซึ่งการคืนเงินหลักประกันจะมีอยู่ 3 กรณี

  • กรณีโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการ (ภายใน 3 วันทำการ)
  • กรณีสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็ค ( ภายใน 7 วันทำการ)
  • กรณีหนังสือค้ำประกัน กรมการท่องเที่ยวจะมีหนังสือยืนยันปลดภาระผูกพันหนังสือค้ำประกันธนาคารถึงธนาคาร

นารา มีบริการ เป็นตัวแทน ยกเลิก และ รับประกันคืน ติดต่อ โทร 080-175-2000

ถาม 2 – บริษัทของฉันประกอบธุรกิจนำเที่ยวและได้รับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว ต่อมาฉันพบว่าใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัทฉันสูญหาย ฉันสามารถขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวใบใหม่ได้หรือไม่? ถ้าสามารถขอได้ ฉันต้องทำอย่างไรบ้าง?

นารา – โปรดทราบว่าในกรณีที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสูญหาย คุณสามารถขอใบแทนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้ โดยการยื่นเอกสารที่กรมการท่องเที่ยว ซึ่งเอกสารที่ต้องจัดเตรียมมีดังนี้

  1. แบบคำขอใบแทนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
  2. หนังสือรับรองบริษัท
  3. สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการ
  4. สำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการ
  5. หลักฐานการแจ้งความใบอนุญาตสูญหาย
  6. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ)

อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะออกใบนัดรับเอกสารให้และใช้เวลาในการออกใบแทนประมาณ 6 วันทำการ หลังจากครบกำหนดวันนัดรับใบอนุญาตดังกล่าว คุณสามารถเข้าไปรับใบแทนพร้อมกับชำระค่าธรรมเนียม 1,000 บาทที่กรมการท่องเที่ยวได้

 10,539 total views,  1 views today