รู้จัก เข้าใจe-Donation
e-Donation หรือระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบการบริจาคแบบใหม่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นและนำมาใช้ในการรับและเก็บรักษาข้อมูลการบริจาค เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริจาคที่จะได้ไม่ต้องพะวงหรือกังวลใจกับการเก็บรักษาเอกสารหลักฐานการบริจาคเงินในการนำมาแสดงต่อกรมสรรพากร เพื่อประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีตอนยื่นภาษีประจำปี ซึ่งระบบนี้จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลการบริจาคในรูปการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารผ่านระบบ QR Codeที่ตู้รับบริจาคที่ติดเครื่องหมาย QR Code แทนการบริจาคเงินแบบเดิมที่ต้องหยอดเงินสดใส่ตู้รับบริจาค โดยจะบันทึกข้อมูลการบริจาคในระบบe-Donation ของกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้อย่างครบถ้วนและสะดวกรวดเร็ว ซึ่งมีช่องทางของระบบในภาพรวม ดังนี้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบฯ ประกอบด้วย 3 หน่วย ได้แก่ หน่วยรับบริจาค ซึ่งได้แก่ วัด โรงเรียน องค์กรสาธารณกุศลต่าง ๆ และยังเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่กำกับดูแลหน่วยรับบริจาค ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินผู้ให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลที่ผู้บริจาคโอนเงินผ่านระบบของสถาบันการเงินให้กรมสรรพากร โดยปัจจุบันในส่วนของวัดและโรงเรียน ขณะนี้ถือเป็นหน่วยรับบริจาคที่มีข้อมูลบนระบบ e-Donation ขอกรมสรรพากรที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการรับบริจาคในระยะแรกนี้ได้แล้ว
ในที่นี้จึงขอนำวิธีการและขั้นตอนการใช้ระบบ e-Donation สำหรับหน่วยรับบริจาคในส่วนของวัดและโรงเรียนที่ต้องการใช้งานระบบฯ มาแนะนำ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอมีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค และดำเนินการตามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ e-Donation ได้ดังนี้
ขั้นตอนการใช้งานระบบ
1.ขอมีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค
โดยสามารถตรวจสอบการมีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคได้ที่http://edonation.rd.go.th/donate/Login_New.jsp>เมนู >ตรวจสอบข้อมูลหน่วยรับบริจาค หากยังไม่มีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคสามารถติดต่อขอมีเลขประจำตัวได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ซึ่งวัดหรือโรงเรียนตั้งอยู่ได้ สำหรับกรณีเป็นศาสนสถานในศาสนาอื่น ให้ติดต่อขอมีเลขประจำตัวได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
2.ลงทะเบียน
กรณีมีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคแล้ว สามารถลงทะเบียนบนระบบ e-Donation ในหัวข้อ เมนู >สำหรับหน่วยรับบริจาค >ลงทะเบียน โดยบันทึกข้อมูลที่สำคัญให้ครบถ้วน และกำหนดรหัสผ่านสำหรับการใช้งานระบบฯ
3.นำส่งข้อมูล
เมื่อบันทึกข้อมูลการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งใบลงทะเบียนและเอกสารประกอบการพิจารณา ได้แก่สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งสถานศึกษาหรือศาสนสถานสำเนาหนังสือแต่งตั้งผู้มีอำนาจ บัตรประจำตัวผู้มีอำนาจลงนาม ให้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ เพื่อดำเนินการอนุมัติบนระบบต่อไป
4.รอแจ้งผลการพิจารณา
การพิจารณาอนุมัติจะส่งมาทาง e-mail ที่หน่วยรับบริจาคลงทะเบียนไว้ โดยจะส่งรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านให้หน่วยรับบริจาคที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ใช้ระบบฯ ได้ต่อไป
ข้อมูลที่หน่วยรับบริจาคต้องบันทึกมีอะไรบ้าง
หน่วยรับบริจาคต้องบันทึกข้อมูลการรับบริจาคภายในเดือนที่รับบริจาคและไม่เกินวันที่ 5ของเดือนถัดไป โดยข้อมูลที่ต้องบันทึกในระบบฯ ประกอบด้วย
1.เลขประจำตัว 13 หลักของผู้บริจาค ซึ่งระบบจะแสดงชื่อ นามสกุล ของผู้บริจาคให้โดยอัตโนมัติ
2.วัน เดือน ปี ที่บริจาค
3.จำนวนเงินที่บริจาค หรือมูลค่าทรัพย์สินกรณีผู้บริจาคเป็นนิติบุคคล
สามารถดูรายงานการบันทึกข้อมูลได้อย่างไร
กรณีต้องการเรียกดูรายงานการบันทึกข้อมูลการบริจาค สามารถดูข้อมูลการบริจาคได้ที่
1.เมนู
2.สำหรับหน่วยรับบริจาค
3.เข้าสู่ระบบ
4.“แสดงข้อมูลการบริจาค” และ “พิมพ์รายงาน” ได้ตามต้องการ
หากบันทึกข้อมูลผิดพลาด หรือกรณีมีข้อมูลผู้บริจาคจำนวนมาก ต้องดำเนินการอย่างไร
กรณีมีการบันทึกข้อมูลผิดพลาดต้องดำเนินการแก้ไขหรือยกเลิกรายการภายในปีที่บริจาคแล้วแต่กรณี ดังนี้
1.กรณีบันทึกเลขประจำตัวถูก แต่บันทึกจำนวนเงินผิดพลาด ให้แก้ไขเฉพาะจำนวนเงินที่บริจาคเท่านั้น
2.กรณีบันทึกเลขประจำตัวผิดพลาด ให้ดำเนินการยกเลิกรายการ และบันทึกใหม่
3.กรณีบันทึกซ้ำ ให้ยกเลิกรายการ
4.กรณีมีข้อมูลผู้บริจาคจำนวนมาก เช่น ในช่วงทอดกฐินหรือผ้าป่า หน่วยรับบริจาคสามารถนำส่งข้อมูลแบบ Upload File ได้ด้วยการ Download Template (Excel) ตามที่หน้าจอของระบบฯ กำหนดโดยทำตามเงื่อนไขที่กำหนดในแต่ละรายการให้ถูกต้อง และนำเข้าข้อมูลภายในเดือนที่รับบริจาคแต่ไม่เกินวันที่ 5 ของเดือนถัดไป
หากต้องการรับบริจาคผ่านช่องทางธนาคารต้องดำเนินการอย่างไร
1.ลงทะเบียนบนระบบ e-Donation ทางเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th
2.เปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ที่มีระบบรองรับการส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากรและเป็นบัญชีเพื่อการรับเงินบริจาคเท่านั้น
3.ทำข้อตกลงร่วมกับธนาคารพาณิชย์เพื่อส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากร
จากข้อมูลข้างต้น หน่วยรับบริจาคที่เป็นวัดหรือโรงเรียนคงทราบถึงขั้นตอนและประโยชน์ของการใช้งานระบบ e-Donation ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้บริจาคและหน่วยรับบริจาคเองได้เป็นอย่างดี โดยการบริจาคก็ยังเป็นไปตามปกติไม่ว่าจะบริจาคเป็นเงินสด ผ่านธนาคารหรือตัวกลางรับบริจาคอื่น ๆ เพียงแค่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดของช่องทางรับบริจาคนั้น ๆ ก็สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ต้องการได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นระบบที่สามารถเชื่อมั่นในความสะดวกรวดเร็วและนับเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
3,594 total views, 1 views today