ภาษีเงินได้จากการลงทุน
การลงทุนมีหลากหลายรูปแบบทั้งการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นต้นโดยจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่แตกต่างกันตามความเสี่ยงที่จะได้รับ โดยความเสี่ยงสูงผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงต่ำผลตอบแทนต่ำ ผู้ลงทุนจึงต้องทำการศึกษาประเภทของการลงทุนว่าการลงทุนแต่ละประเภทมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร และมีปัจจัยใดบ้างที่ต้องนำมาคำนึง วารสารสรรพากรฉบับนี้จึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมและตราสารหนี้ ปัจจัยด้านภาษีที่มีผลกับการลงทุน เพื่อใช้เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาเลือกลงทุน
กองทุนรวม (Mutual Fund)
เป็นการระดมเงินลงทุนจากคนจำนวนมาก ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามนโยบายของแต่ละกองทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนแล้วนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ลงทุนแต่ละรายตามสัดส่วนที่ลงทุน
ในการจัดตั้งกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้บริหารจัดการเงินลงทุนแทนผู้ลงทุน ผลตอบแทนหรือรายได้ที่จะได้รับจากการลงทุนในกองทุนรวม ได้แก่ เงินปันผล (Dividend) และกำไรจากการขาย (Capital Gain) ซึ่งมีผลกับภาษีที่ผู้ลงทุนต้องพิจารณา ดังนี้
ผลตอบแทนจากการลงทุน
เงินปันผล (Dividend)
กำไรจากการขาย (Capital Gain)
ภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวม
หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 ยกเว้น
ตราสารหนี้ (Debt Instruments)
ตราสารการเงินเป็นสัญญาที่แสดงความเป็นหนี้ระหว่างผู้ออกตราสารหนี้และผู้ถือตราสารหนี้ ที่เรียกว่า
ผู้ลงทุนตราสารหนี้ โดยผู้ถือตราสารหนี้จะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้
โดยผู้ถือตราสารหนี้จะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ตราสารหนี้ต้องมีการกำหนดอายุ อัตราดอกเบี้ย เป็นจำนวนที่แน่นอนโดยระบุวันที่จะชำระดอกเบี้ยและเงินต้นไว้ล่วงหน้าเมื่อออกตราสารนั้น ในระหว่างที่ยังไม่ครบกำหนดอายุหรือวันไถ่ถอน สามารถซื้อขายโอนเปลี่ยนมือกันได้ ผลตอบแทนหรือรายได้ที่จะได้รับจากการลงทุนในตราสารหนี้ได้แก่ ดอกเบี้ย (Coupon) ส่วนลด (Discount) และกำไรจากการขาย (Capital Gain) ซึ่งมีผลกับภาษีที่ผู้ลงทุนต้องพิจารณา ดังนี้
ผลตอบแทนจากการลงทุน ภาษีจากการลงทุนในตราสารหนี้
ดอกเบี้ย (Coupon)
ส่วนลด (Discount)
กำไรจากการขาย (Capital Gain)
ภาษีจากการลงทุนในตราสารหนี้
หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15
หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 เฉพาะผู้ถือคนแรก
หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15
ในการลงทุนมีทางเลือกมากมาย ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงขึ้นอยู่กับ อุปนิสัยส่วนตัวของนักลงทุน ขนาดของเงินลงทุนผลตอบแทนจากการลงทุน ระดับความเสี่ยงที่พอจะรับได้ สภาพคล่องทางการเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีความรู้ในการลงทุนซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
2,395 total views, 1 views today