ประเด็นสำคัญของภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี
ผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล นอกจากมีหน้าที่ในการจัดทำงบการเงินที่แสดงถึงผลประกอบการของกิจการที่เกิดขึ้นในแต่ละปีแล้ว ยังมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีด้วย และแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ภ.ง.ด.51 ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าแบบแสดงรายการประเภทอื่นที่กิจการต้องดำเนินการจัดทำให้ถูกต้อง ครบถ้วน สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ภ.ง.ด.51 เป็นการยื่นเสียภาษีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ โดยกฎหมายกำหนดให้นิติบุคคลมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีตามแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.51 ภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี ซึ่งแบ่งประเภทการยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เป็น 2 กรณี ดังนี้
1.การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิจริงในช่วง 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือกิจการธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับอนุมัติให้มีผู้สอบทานงบการเงินโดยกำหนดให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงในรอบ 6 เดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีโดยให้แนบงบแสดงสถานะทางการเงิน และหนังสือรับรองของผู้สอบทานงบแสดงสถานะทางการเงินพร้อมกับการยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ด้วย
- การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากประมาณการกำไรสุทธิ
สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป โดยกำหนดให้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิซึ่งได้จากกิจการที่ทำและให้คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากจำนวนกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำหรือจะได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชี
สำหรับกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.51 หรือยื่นเกินกำหนดเวลา หรือยื่นรายการไม่ครบถ้วน โดยไม่มีเหตุอันสมควร จะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระหรือภาษีที่ชำระขาด ดังนี้
กรณีที่ 1 เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิจริงในช่วง 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
หากไม่ยื่นแบบแสดงรายการภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี หรือยื่นแบบแสดงรายการเมื่อพ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบ เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจสั่งให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระ
กรณีที่ 2 เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากประมาณการกำไรสุทธิ
1) หากไม่ยื่นแบบแสดงรายการหรือยื่นแบบแสดงรายการเมื่อพ้นกำหนดเวลา 2 เดือนนับแต่วันครบกำหนดรอบ 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี โดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจสั่งให้เสียเงินเพิ่มร้อยละ 20 ของกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินภาษีที่ต้องเสียในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
2) หากยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีภายใน 2 เดือนนับแต่วันครบกำหนด 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี แต่แสดงประมาณการกำไรสุทธิไว้ขาดไปเป็นจำนวนเกินกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันนั้น โดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจสั่งให้เสียเงินเพิ่มร้อยละ 20 ของจำนวนภาษีที่ชำระขาดไป
ในที่นี้ขอฝากให้ผู้ประกอบการใช้ความระมัดระวังในการจัดทำงบการเงินและการยื่นแบบแสดงรายการภาษีให้ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือ ต้องพิจารณาคัดเลือกผู้ทำ บัญชีและผู้ตรวจสอบรับรองบัญชีที่จะมาดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะนอกจากแบบแสดงรายการภาษีจะแสดงให้เห็นถึงผลประกอบการของกิจการแล้วยังแสดงถึงความน่าเชื่อถือของกิจการต่อบุคคลภายนอก รวมทั้งข้อมูลในการจัดทำบัญชีและภาษีจะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลในการขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินในอนาคตอีกด้วย
2,190 total views, 1 views today