ขยายเวลา ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บุคคลธรรมดาเปลี่ยนรูปเป็นนิติบุคคล
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบกิจการในรูปแบบนิติบุคคลออกไปจนถึงสิ้นปี 2561เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ซึ่งประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดาแปลงสภาพมาประกอบกิจการในรูปของนิติบุคคลเพิ่มมากขึ้น โดยชี้ให้เห็นประโยชน์ของการประกอบกิจการในรูปของนิติบุคคลว่าจะสามารถลดต้นทุนให้ถูกลงได้ และสามารถหักลดหย่อนและหักค่าใช้จ่ายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นมาตรการที่จะเพิ่มให้ผู้ประกอบธุรกิจมีความสามารถในการลงทุนและเติบโตอย่างมีศักยภาพได้ยิ่งขึ้น โดยการขยายเวลาตามมาตรการครั้งนี้ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากเข้าเงื่อนไข ดังนี้
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
1.ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
อสังหาริมทรัพย์ ที่ดินหรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยผู้โอนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แต่ไม่รวมถึงภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมการโอน
2.นิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาทและมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท สามารถนำรายจ่าย
อันเกิดจากการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ค่าทำบัญชีและค่าสอบบัญชี มาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า เป็นเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน โดยรายจ่ายที่จะนำมาใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีนี้ได้นั้น ต้องเป็นรายจ่ายตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
เงื่อนไขที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
1.เป็นการโอนทรัพย์สินเพื่อเป็นทุนจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล หรือเพิ่มทุนจดทะเบียนนิติบุคคล
2.เป็นกรณีของนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561
3.บุคคลธรรมดาผู้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินต้องถือหุ้นในนิติบุคคลที่รับโอนทรัพย์สินเป็นจำนวนไม่น้อยกว่ามูลค่าทรัพย์สินที่โอน
มาตรการนี้จะเป็นประโยชน์กับบุคคลธรรมดา ที่ประสงค์จะประกอบกิจการในรูปแบบนิติบุคคล โดยเฉพาะธุรกิจที่มีรายได้สูง และมีแนวโน้มจะเติบโต เพราะรัฐบาลจะผลักดันนโยบายการปรับลดอัตราภาษี หรือกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลดีต่อนิติบุคคลมากกว่าแค่เรื่องสิทธิทางภาษี เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ประกาศลดอัตราค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนนิติบุคคลลงจากเดิมที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดจะเสียค่าธรรมเนียม 5,000-250,000 บาท เป็นแบบคงที่ 5,000 บาท และหากเลือกจดทะเบียนออนไลน์ก็จะเสียค่าธรรมเนียมลดลงถึงร้อยละ 30 โดยจะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 3,500 บาท สำหรับการเปลี่ยนจากผู้ประกอบการบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคล เรื่องภาษีเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีประโยชน์ด้านอื่นอีกหลายด้านซึ่งผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับ และดูแนวโน้มของธุรกิจโดยรวมไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ธุรกิจของตนเองได้รับประโยชน์มากที่สุด
2,058 total views, 1 views today