การจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ทรัพยากรมนุษย์ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดแต่ละคนจะมีความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้ได้แตกต่างกัน ซึ่งเกิดจากพื้นฐานในการเรียนรู้ตั้งแต่วัยเยาว์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการและการเรียนรู้ในอนาคต หากเด็กเล็กอยู่ในชุมชนที่มีการฝึกพัฒนาการเรียนรู้ที่ดี เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญกับเด็กเล็กที่ครอบครัวต้องออกไปทำงาน ทำให้ไม่มีคนดูแล จึงได้มีการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบการ โดยกระทรวงการคลัง ร่วมกับ 5 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงแรงงานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบการและชุมชน รวมทั้งพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กให้มีความแตกต่างจากหลักเกณฑ์สำหรับศูนย์เลี้ยงเด็กทั่วไป (Stand-alone) โดยคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ได้ออกระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดให้มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2560 ซึ่งมีความเหมาะสมกับบริบทของศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบการเป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ ยังให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีกับสถานประกอบการที่มีการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็ก
มาตรการภาษีส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเป็นสวัสดิการของลูกจ้างสำหรับสถานประกอบการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบการ มาหักเป็นรายจ่ายได้ตามที่จ่ายจริงและสามารถหักได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตามที่จ่ายจริง (รวมหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า) แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- ได้รับใบประกาศ
นายจ้างหรือผู้ได้รับมอบหมายจากนายจ้างต้องได้รับใบประกาศการจัดให้มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
- ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์
ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักเป็นรายจ่ายได้จะต้องมีลักษณะและคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก พ.ศ. 2549 หรือระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติว่าด้วยการจัดให้มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2560
- ค่าใช้จ่ายอยู่ในรอบระยะเวลาบัญชี
การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้มีผลบังคับสำหรับค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 (คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาฯ)
มาตรการภาษีถือเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการมีการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานประกอบการเพื่อเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้แก่ลูกจ้างอันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลูกจ้าง และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุณภาพการศึกษาของเด็กปฐมวัยของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐที่กำหนดให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย รวมถึงช่วยให้บิดา มารดา และบุตรได้อยู่ใกล้ชิดกัน อันจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่สมาชิกภายในครอบครัว และเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันครอบครัวซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของสังคมที่มีคุณภาพต่อไป
2,537 total views, 1 views today